ขลิบไร้เลือด หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ (CIRCUMCISION)
Tags: คลินิกขลิบปลาย, ขลิบ เชียงใหม่ ราคาถูก, ขลิบไร้เลือด เชียงใหม่ ราคา, ขลิบ เชียงใหม่ราม, ขลิบไร้เลือด, ขลิบ ราคา, ขลิบไร้เลือด ลำปาง, clever clinic, cleverclinic เชียงใหม่, clever clinic ศัลยกรรมเพศชาย, ขลิบไร้เลือดเชียงใหม่, cleverclinicเฉพาะทางเชียงใหม่, cleverclinikbydrkitt
ขลิบไร้เลือด เทคนิกใหม่ที่ได้ยอมรับ clever clinic
มีให้บริการ ตัดไร้เลือด ราคา เพียง 8900 บาท
ขลิบ ( circumcision )การขลิบเป็นวิธีที่ต้องตัดหนังหุ้มส่วนปลายของจู๋หรือน้องชายออก เพราะจะให้ทำให้ใต้หนังหุ้มปลายที่ขลิบออกไปแล้วเราสามารถความสะอาดได้ง่าย และจะเริ่มทำตอนที่เด็กยังมีอายุไม่เกิน 1 สัปดาห์
ที่จริงแล้วนั้นในสมัยก่อนการขลิบมีขึ้นเพราะ ตามหลักศาสนาอิสลามแล้วต้องทำการขลิบทุกคน และในปัจจุบันพ่อแม่ของเด็กหลายๆคนเชื่อว่า การขลิบจะช่วยให้การเกิดเกิดมะเร็งมีโอกาสเกิดน้อยลง และการขลิบนั้นจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรก ทำให้กลิ่นที่จะตามมาที่อยู่ใต้หนังหุ้มปลายของจู๋หายไป เช่น คราบต่างๆที่หมกอยู่ใต้บริเวณหนังหุ้มปลายของน้องชาย และอาจเกิดแบคทีเรียขึ้น และสามารถไปขลิบได้ตั้งแต่เด็กทารกจนไปถึงผู้สูงวัย
หนังหุ้มปลายของจู๋หรือน้องชายมีความสำคัญอย่างไร
หนังหุ้มปลายมีหน้าที่ป้องกันและปกคลุมตั้งแต่บริเวณส่วนหัวจนกระทั่งถึงส่วนปลายของน้องชาย และรูปัสสาวะเพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากการบาดเจ็บ และการอักเสบที่ที่เกิดจากการหมกใต้หนังหุ้มปลายเป็นเวลานาน ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งจู๋หรือน้องชายขลิบไร้เลือด กี่วันหาย
หากหลังจากการขลิบไร้เลือดแล้วไม่พบอาการผิดปกติตรงบริเวณรอยแผลก็จะแห้งประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วเวลาอาบน้ำจู๋ของเราก็จะสามารถโดนน้ำได้ตามปกติ แต่ 3 วันแรกไม่ควรให้รอยแผลโดนน้ำหรือถ้าโดนน้ำควรรีบเช็ดทันที และหลังจากนั้นแผลก็จะค่อยๆแห้งและหายตามปกติและพร้อมสำหรับการมีเซ็กส์ภายในระยะเวลาเวลา 2 เดือน แต่ถ้าพบอาการที่ผิดปกติ เช่น เกิดมีเลือดไหลหรือมีหนอง ควรไปพบหมอทันที ทั้งนี้การขลิปไร้เลือดก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดอยู่ ณ ปัจจุบันสำหรับผู้ชายที่ต้องการขลิบหนังหุ้มปลายออก
ทำไมเราถึงต้องขลิบหนังหุ้มปลาย
1.จะปัสสาวะลำบาก และเริ่มมีอาการเจ็บปวดในขณะที่กำลังปัสสาวะ
2.เพราะว่าจะมีอาการอักเสบเรื้อรังของหนังหุ้มปลายของจู๋หรือน้องชาย
3.บริเวณหนังหุ้มปลายไม่เปิด หรือเปิดได้ไม่เต็มที่
4.หนังหุ้มปลายหดรัดลำองคชาติ ทำให้เจ็บปวดและบวม
5.รูดแล้วติดไม่สามารถรูดกลับได้
6.เกิดการติดเชื้อที่ปลายหนังหุ้ม ติดเชื้อบ่อย ๆ เกิด แผลเป็นได้
7.ในเด็กที่เป็นสาเหตุทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
8.ในเด็กเข้าสู่วัยรุ่นแล้วหนังหุ้มปลายไม่เปิด
9.หนังหุ้มปลายยาว ทำให้ติดซิบกางเกง เกิดการบาดเจ็บ
10.ง่ายในการทำความสะอาดขลิบหนังหุ้มปลาย
(จู๋) ขลิบแล้วดีไหม
1.สามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย
2.ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งจู๋
3.ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กที่อายุน้อย
4.ลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
5.สามารถป้องกันภาวะหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตีบตัน
2.ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งจู๋
3.ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กที่อายุน้อย
4.ลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
5.สามารถป้องกันภาวะหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตีบตัน
การขลิบมีข้อเสียอะไรบ้าง ?
การขลิบจู๋หรือน้องชายจะสามารถลดเชื้อโรค และยังช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งได้ แต่ทุกคนก็อย่าลืมว่าหากขลิบกับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ การขลิบนั้นอาจจะมีการติดเชื้อหรือเลือดไหลเยอะในขณะที่ทำการขลิบหรือการผ่าตัดที่ออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ และอาจจะทำให้ขาดความมั่นใจเมื่อโตขึ้น หรือถ้ามีการตัดหนังหุ้มปลายออกไปมากเกินไป ก็อาจจะเกิดการตึงเมื่อเกิดการแข็งตัวที่บริเวณน้องชาย แต่ในทางที่ดีควรสอนบุตรให้รู้จัการทำความสะอาดน้องชายทุกครั้งขณะอาบน้ำ
ข้อห้ามในการขลิบ
1. เด็กเด็กที่มีความผิดปกติของน้องชาย (จู๋) เช่น ภาวะที่ท่อปัสสาวะเปิดต่ำกว่าปกติ (Hypospadia)
2. ทารกคลอดก่อนกำหนด
3. ลักษณะอวัยวะเพศผิดปกติ
4. หนังหุ้มปลายเกิดการบวม/ติดเชื้อ
5. ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่ายผิดปกติหรือรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
6. ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดและหัวใจ
7. ผู้ป่วยมะเร็งที่จู๋
ขลิบหนังหุ้มปลายแบบไหนดี…จู๋ถึงจะหล่อ Low vs High , Tight vs Loose
การขลิบแบบ high low tight loose คือ จะแบ่งตามสัดส่วนของหนังหุ้มปลายที่ถูกตัดออกไป และยังสามารถเลือกได้ว่าเรา จะเอาหนังส่วนไหนเยอะและจะเอาเนื้อส่วนไหนน้อย ซึ่งแบบที่เราเลือกไปก็จะส่งผลถึงรูปลักษณ์ของอวัยวะเพศ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล หัวใจหลักของการขลิบ นั่นก็คือ การตัดหนังหุ้มปลายที่อวัยเพศออกไป เพราะจะทำให้เราสามารถความสะอาดได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ทั่งนี้ความสวยงามของการขลิบนั้นเราก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ
เทคนิคการตัดอาจแยกอย่างคร่าวๆได้ดังนี้
ขลิบแบบมินิมอล (MINIMAL Style) มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่ให้มีรูปลักษณ์คงเดิม แล้วยังสามารถมีกลไกร่วมเพศแบบเดิมได้ จะตัดแค่หนังที่เกินมาจากอวัยวะเพศ จึงทำให้คนที่มีหนังหุ้มปลายยาวหรือทำให้รูดเปิดบริเวณหัวอวัยวะเพศได้ยาก การผ่าตัดนี้จะช่วยให้เราสามารถรูดเปิดหัวอวัยวะเพศและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
ขลิบแค่บางส่วน (Partial Style) เป็นการตัดปลายออกบางส่วน จึงเหลือแค่ผิวหนังที่ปิดหัวอวัยวะเพศได้บางส่วนจะอ่อนตัว แต่พอแข็งตัวจะไม่สามารถปิดปลายท่อปัสสาวะ และสามารถเปิดออกได้ทั้งหมด
ขลิบแบบหลวม (Loose Style) หลังจากการผ่าตัดบริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศจะรูดเปิดออกได้หมด ในขณะที่อวัยวะเพศอ่อนตัวจะมีผิวหนังส่วนที่ย่นๆอยู่บริเวณขอบของอวัยวะเพศ ยกเว้นขณะที่อวัยวะเพศอ่อนตัวมากกว่าปกติ เช่น ตอนเช้าๆอากาศเย็นๆ จะมีผิวหนังคลุมขอบของจู๋ และในขณะที่อวัยวะเพศแข็งผิวหนังก็จะตึงไม่มากแล้วก็ยังสามารถขยับผิวหนังบางส่วนได้อีก ข้อดีนั่นก็คือ เวลาเราใส่กางเกงในก็จะไม่เจ็บและผิวหนังบางส่วนของอวัยวะเพศก็สามารถขยับได้อีกด้วยนั่นแองแล้วนอจากนั้นก็ยังช่วยไม่ให้จู๋ของเราเห็นชัดเกินไปแบบตึง (Tight) การขลิบแบบนี้เป็นการขลิบที่ต้องตัดหนังหุ้มปลายออกไปเยอะจึงทำให้ไม่มีส่วนที่ห้อย และบริเวณขอบอวัยวะเพศในช่วงหดตัวเวลาใส่กางเกงในจะเห็นได้ชัดกว่าปกติ และเวลาที่แข็งตัวไม่สามารถรูดเปิดหรือเปิดได้ที่จริงแล้วในเมืองไทยพบได้น้อยมากสำหรับคนที่ขลิบแบบตึง (Tight) สาเหตุก็ขึ้นอยู่กับแพทย์ที่จะทำเราแล้วก็เทคนิคและความชำนาญของแพทย์ในแต่ละคน แต่ในต่างประเทศส่วนมากจะนิยมการขลิบแบบนี้ซะส่วนมาก ก็เลยมีการประยุกต์หรือเพิ่มออปชั่นเสริมเข้ามาอย่างหลากหลาย แบบที่หลายๆท่านที่เคยได้ยินคำว่า high low loose tight เป็นต้น
High loose รอยการขลิบอยู่ใต้จากบริเวณส่วนคอหยัก
1. รอยต่างของสีจะสังเกตได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก inner foreskin ได้ถูกเอาออกไปเกือบทั้งหมด
2. เวลาอ่อนตัว จะมีหนังย่น ๆ เหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3. เส้นประสาทของหนังด้านในจะถูกตัดออกไป
4. มีโอกาสที่จะต้องขลิบซ้ำได้มากถ้าหากผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจHigh tight ระยะห่างระหว่างรอยขลิบกับคอหยักประมาณ 10 mm
1. ปลายประสาทส่วนใหญ่ยังอยู่ด้านในของผิวหนังและสามารถถูกกระตุ้นได้อย่างเต็มที่
2. เวลาอ่อนตัวจะเหลือหนังมากองเพียงเล็กน้อยบริเวณคอหยัก
3. จะเห็นถึงความต่างของสีผิวค่อนข้างมากระหว่าง inner และ outer foreskin ซึ่งบางคนบอกชอบแต่บางคนอาจไม่ชอบก็ได้
Low loose มีรอยขลิบอยู่ใต้คอหยัก อาจมีส่วนของหนังบริเวณลำมาคลุมส่วนหัวได้
1. รอยต่างของสีจะสังเกตเห็นได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก inner foreskin ได้ถูกเอาออกไปเกือบหมด
2. เส้นประสาทบริเวณหนังด้านในจะถูกเอาออกไป
3. มีโอกาสจะต้องขลิบซ้ำได้มากถ้าหากผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
4. ทำให้ดูแลความสะอาดทำได้ไม่สะดวกพอ เพราะจะเหมือนกับคนที่ยังไม่ได้ขลิบ
5. เวลาอ่อนตัว เนื่องจากหนังที่ยังเหลืออยู่มาก ก็ทำให้มีหนังมากองอยู่บริเวณใต้คอหยัก ซึ่งทำให้ดูเหมือนคนมีหนังหุ้มปลายอยู่
Low tight มีระยะห่างอย่างน้อยที่สุด 10 mm ระหว่างรอยขลิบและส่วนหัวแต่ยังมีบางส่วนสามารถมากองบริเวณใต้คอหยักได้
1. ปลายประสาทส่วนใหญ่ยังอยู่ด้านในของผิวหนังและสามารถถูกกระตุ้นได้อย่างเต็มที่
2. ในขณะอ่อนตัวหนังที่ยังเหลืออยู่มาก ก็ทำให้มีหนังมากองอยู่บริเวณใต้คอหยัก ทำให้ดูเหมือนคนมีหนังหุ้มปลายอยู่แต่รูดขึ้นไป
3.จะเห็นถึงความต่างของสีผิวค่อนข้างมากระหว่าง inner และ outer foreskin ซึ่งบางคนบอกชอบแต่บางคนอาจไม่ชอบได้
4. ทำให้การดูแลความสะอาดทำได้ไม่สะดวกพอ เพราะจะเหมือนกับคนที่ยังไม่ได้ขลิบ
จะเห็นได้ถึงรายละเอียดของการขลิบที่แตกต่างกัน แต่ก็อย่าลืมนะว่า ข้อดีของการขลิบคือการดูแลความสะอาดของอวัยวะเพศส่วนสำคัญ ส่วนรายละเอียดย่อยก็ขึ้นอยู่กับคุณหมอและการปรึกษาที่คุณหมอจะทำให้นั่นเอง