ปลูกผมถาวรFUE จำนวน 3,000 กราฟ

รหัสสินค้า : fue5

ราคา

49,000.00 ฿


320,000.00 ฿

 (-85%)
จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 49,000.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

ปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE จำนวน 3,000 กราฟ *แถมฟรี 200 กราฟ และ PRP บำรุงเซลล์รากผม


การปลูกผมด้วยวิธีปลูกผม FUE

Follicular Unit Excision


การปลูกผมเป็นทางออกที่ดี ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติที่สุดสำหรับคนที่มีศีรษะล้านหรือบาง การปลูกผมนับเป็นการผ่าตัดเล็กและขั้นตอนสำคัญทั้งหมดจะถูกทำโดยแพทย์ ส่วนพยาบาลและผู้ช่วยแพทย์จะมีหน้าที่ช่วยเหลือแพทย์ในขั้นตอนที่มีความสำคัญลดลงมาเท่านั้น

หลักของวิธีปลูกผมคือการย้ายรากผมจากที่หนึ่ง (ด้านหลังของศีรษะ) ไปยังอีกที่หนึ่ง (บริเวณที่ล้านหรือบาง) ไม่ใช่การเพิ่มเส้นผมจากที่มีอยู่ ผมบริเวณที่รากผมถูกนำออกมาแล้วจะไม่ขึ้นมาใหม่ แต่ผมจะไปขึ้นในบริเวณที่หมอนำรากผมไปปลูกแทน การปลูกผมจะใช้ระยะเวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส

วิธีปลูกผมแบบ FUE เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเพราะแผลเป็นจากการปลูกผมมีขนาดเล็ก (~0.8 มม.) และระยะพักฟื้นสั้น นั่นเป็นเพราะว่าการปลูกผมวิธีนี้เป็นการนำรากกอผมออกมาทีละกอ ขนาดของแผลจึงใกล้เคียงกับขนาดของกอรากผม วิธีปลูกผมแบบ FUE สามารถนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาได้หลายประเภท เช่น ผมบาง/ล้าน คิ้วบาง หนวด/เคราบาง หรือแม้กระทั้งช่วยในการปกปิดแผลเป็น


ลำดับขั้นตอนการปลูกผม



1.) วาดขนาดพื้นที่ที่ต้องปลูก และทำการโกนผมด้านหลังของศีรษะ และคนไข้จะถูกพาเข้าห้องผ่าตัด หลังจากนั้นจะเริ่มฉีดยาชา นี่เป็นขั้นตอนเดียวที่จะรู้สึกเจ็บเพราะยาชายังไม่ออกฤทธิ์ เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว คุณจะไม่รู้สึกเจ็บจากกระบวนการการปลูกเลย

2.) แพทย์จะทำการเจาะกอผมด้วยเครื่องเจาะ WAW FUE SYSTEM จากเบลเยี่ยมซึ่งจะลดโอกาสสร้างความเสียหายให้กับรากผมได้เทียบเท่ากับหุ่นยนต์ ARTAS จากนั้นก็จะใช้คีมปลายแหลมคีบกอผมนั้นออกมาแช่ไว้ในน้ำยาพิเศษเพื่อที่จะถนอมรากที่ถูกเจาะออกมาให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเมื่ออยู่นอกร่างกายคนไข้


ทำไมราคาปลูกผมแต่ละที่ถึงต่างกัน

การปลูกผมก็เหมือนบริการทั่วๆ ไปที่ราคาจะต่างในแต่ละสถานพยาบาล ราคาปลูกผมสามารถเริ่มต้นจากกราฟท์ละ 20 บาทได้ แต่ก็สามารถสูงถึง 160 บาทต่อกราฟท์ได้ การที่ราคาปลูกผมสามารถเหวี่ยงได้ขนาดนี้มีหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่น ค่าจ้างบุคลากร อุปกรณ์ที่ใช้ ประสบการณ์ของแพทย์ การกำหนดตำแหน่งทางการตลาด ฯลฯ

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อพูดถึงราคาค่าบริการคือไม่มีธุรกิจไหนที่จะยอมให้ราคาต้นทุนหรือรายจ่ายมากกว่ารายรับแน่นอน เพราะว่าธุรกิจจะเจ๊งเอาได้ ดังนั้นการที่ธุรกิจจะทำให้ราคาขายถูกลงได้นั้น เขาจะต้องทำให้ต้นทุนต่ำลงด้วย ซึ่งการทำให้ต้นทุนต่ำลงก็ทำได้ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่ราคาถูกลง ค่าแรงพนักงานหรือคณะแพทย์ที่ถูกลง และอีกหลายๆ ปัจจัย ซึ่งสิ่งที่ถูกลงก็อาจจะหมายความได้ว่าคุณภาพ (ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร เครื่องมือ และอื่นๆ ) ก็อาจจะต่ำลงด้วย


3.) กราฟท์ที่ได้จะถูกนำมาคัดใต้กล้องจุลทรรศน์ เพื่อดูถึงรากผมว่าสมบูรณ์ดีหรือไม่ และนำกอที่มีคุณภาพดีมาใช้เท่านั้น เพราะว่ากราฟท์ที่ไม่ดี เมื่อปลูกไปผมก็ไม่ขึ้นอยู่ดี และอาจทำให้ผมขึ้นเป็นหย่อม


น้ำยาแช่กราฟท์สูตรเฉพาะของเรา

โดยทั่วไปกว่า 50% ของคลินิกทั่วโลกจะเลือกใช้น้ำเกลือ (Normal Saline) เพื่อแช่กราฟท์ผม น้ำเกลือนี้ก็คือน้ำเกลือทั่ว ๆ ไปที่เห็นกันในโรงพยาบาลเวลาพยาบาลให้น้ำเกลือคนไข้ เป็นน้ำเกลือแบบปลอดเชื้อ คิดกันง่ายๆ คือเกลือเนี่ย เรายังเอามาถนอมอาหารกันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นไข่เค็ม ปลาเค็ม น้ำปลา ฯลฯ และการถนอมอาหารอีกทางคือการเอาเข้าตู้เย็น อาหารจะอยู่ได้หลายวัน ดังนั้นถ้าใช้น้ำเกลือปลอดเชื้อเย็นๆ มาแช่กราฟท์ผมก็จะถนอมรากได้ใช่มั้ยล่ะ เพราะน้ำเกลือนี้ช่วยได้ทั้งให้ความชุ่มชื้นกับกราฟท์ผมขณะที่อยู่นอกร่างกายคนไข้และช่วยให้ความเย็นเพื่อที่จะลดอัตราการเผาผลาญของเซลล์ (Cell Metabolism) ได้

แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ดี แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นพบว่าความต้องการของเซลล์รากผมมีมากกว่านั้น เพื่อที่จะคงสภาพของกราฟท์ผมนั้นมันมีปัจจัยมากกว่าความชุ่มชื้นและความเย็น ค่า pH ของน้ำเกลือนั้นเท่ากับ 5.5 ซึ่งมีค่าความเป็นกรดมากกว่าร่างกายเรา (ร่างกายเรารวมไปถึงเลือดจะมีค่า pH อยุ่ที่ 7.4) ด้วยเหตุผลนี้ การแช่ด้วยน้ำเกลือจึงไม่ใช้สิ่งที่ดีที่สุดอีกต่อไป

รวมไปถึงเรื่องที่ว่าน้ำเกลือนั้น มีแค่น้ำกับเกลือ ไม่มีสารประกอบอื่นๆ เลย สารประกอบอื่นๆ เช่น สารอาหาร สารละลายบัฟเฟอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ และอื่นๆ อีกทั้งเรื่อง “Cold Injury” ด้วย Cold Injury คือการที่นำกราฟท์ไปแช่เย็น เมื่อนำกราฟท์ไปแช่เย็น โปรตีนที่มีหน้าที่นำโซเดียมออกจากเซลล์ก็จะทำงานช้าลง ทำให้เซลล์บวมน้ำได้ ณ ปัจจุบัน การใช้น้ำเกลือจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด




4.) แพทย์จะนำกราฟท์ที่คัดได้มาปลูกบริเวณที่ล้านหรือบริเวณที่ตกลงไว้กับคนไข้โดยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Implanter Pen ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยปกป้องรากผมให้รากไม่เสียหายเวลาปลูกกลับเข้าไปในคนไข้ ทำให้โอกาสการขึ้นของผมมีสูงขึ้นเพราะรากผมอยู่ในสภาพ

Visitors: 37,755